ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) https://www.nanotec.or.th/th Fri, 18 Jul 2025 05:43:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.nanotec.or.th/th/wp-content/uploads/2016/10/cropped-ff-1-32x32.png ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) https://www.nanotec.or.th/th 32 32 “น้ำสะอาดที่ทุกคนเข้าถึง” สวทช. โดย นาโนเทค บูรณาการ วทน. บริหารจัดการนํ้า ยกระดับคุณภาพชีวิต https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-watermanagement-07072025/ Fri, 18 Jul 2025 05:43:07 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26074

เพราะน้ำคือชีวิต แหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงน้ำอุปโภคบริโภคในแต่ละพื้นที่มีคุณภาพที่แตกต่างกัน ปัจจุบัน น้ำเพื่อการอุปโภคในประเทศไทย 80% เป็นการให้บริการโดยหมู่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (น้ำประปาหมู่บ้าน) และ 17% ให้บริการโดย การประปาส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวง หากแต่น้ำประปาหมู่บ้านที่ได้มีมาตรฐาน ผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัยมีเพียง 34.4% (กรมอนามัย) สวทช. โดยนาโนเทค เดินหน้า “โครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคสำหรับชุมชนด้วย วทน.” (ปีงบประมาณ 2566-2568) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยใช้ วทน. ช่วยในการจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค ยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงน้ำสะอาดได้อย่างทั่วถึง

ดร. ณัฏฐพร พิมพะ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการเร่งปฏิกิริยาระดับนาโน การดูดซับ และการคำนวณ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ปัญหาคุณภาพน้ำในแต่ละพื้นที่ สามารถใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ตรวจวัดคุณภาพน้ำ จัดการมลพิษที่แหล่งต้นกำเนิด เพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้าน รวมทั้งการเสริมองค์ความรู้และศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับผู้นำชุมชนในการจัดการน้ำและคุณภาพน้ำ ภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างปี 2566-2567 เพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาดมากกว่า 2,700 ครัวเรือน ในปี 2568 มากกว่า 24,000 ครัวเรือน และจะขยายวงกว้างในพื้นที่อื่นในอนาคต โดยอาศัยนวัตกรรมตรวจวัดและปรับปรุงคุณภาพน้ำ ซึ่งเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานวิจัยของนาโนเทค (Strategic Focus) หรือ SFน้ำและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบทั้งมิติเศรษฐกิจและสังคม

“เรามุ่งเน้นเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำใน 2 ด้านคือตรวจวัดและปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยปรับใช้ตามสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ เช่น ในภาคเหนือที่มีสายแร่ฟลูออไรด์พัดผ่านใต้ดิน มีแหล่งแร่ฟลูออไรด์ละลายลงสู่แหล่งน้ำ รวมถึงปัญหาสารปนเปื้อนทางการเกษตร หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พบสารโครเมียม สารหนู และแคดเมียม สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในตะกอนดินบางจุด เหล็ก แมงกานีส ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันจัดการน้ำอุปโภคบริโภคสำหรับชุมชน”

ล่าสุด ทีมวิจัยนาโนเทคส่งมอบต้นแบบระบบผลิตน้ำประปา และเครื่องผลิตน้ำดื่มด้วยนาโนเทคโนโลยีพร้อมอุปกรณ์ติดตามคุณภาพน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ และส่งเสริมสุขอนามัยในการเข้าถึงน้ำสะอาด ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านการใช้น้ำอุปโภคและบริโภคของประชาชนในพื้นที่ ให้แก่ เทศบาลตำบลบึงระมาณ ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งพื้นที่เทศบาลบึงระมาณ เป็นพื้นที่ต้นแบบที่พบปัญหาคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื้อนฟลูออไรด์ และโรงเรียนบ้านสัน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบระดับโรงเรียนด้านการจัดการน้ำบริโภคที่ได้มาตรฐานจากแหล่งน้ำบาดาล ภายใต้โครงการการพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ที่มีการปนเปื้อนมลสารและโลหะหนักในหมู่บ้าน/ชุมชน จังหวัดพิษณุโลก (ตะเภาทองเฉลิมพระเกียรติ) และจังหวัดลำปาง (แม่ทาน)” ภายใต้แผนงานบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประจำปี 2568

ดร. ณัฏฐพร เผยว่า ปัจจุบัน มีการเข้าถึงน้ำสะอาดด้วยนวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำ กว่า 10,479 ครัวเรือน และตั้งเป้าให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับน้ำสะอาด จาก วทน. กว่า 24,000 ครัวเรือน ภายในปี 2568

นอกจากนี้ นาโนเทคยังดำเนินการขยายผลตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำด้วย วทน. ปี 2568 ตอบโจทย์ความต้องการเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการมอบต้นแบบ “เครื่องกรองน้ำดื่มด้วยนาโนเทคโนโลยี” พร้อมระบบติดตามคุณภาพน้ำและอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพน้ำ จำนวน 2 เครื่อง ให้แก่ เทศบาลตำบลบูเก๊ะตา และองค์การบริหารส่วนตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือนธันวาคม 2567 มากกว่า 2,000 ครัวเรือน

รวมถึง การนำนวัตกรรมตรวจวัดคุณภาพน้ำเพื่อสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำและลุ่มน้ำกก ที่ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการเก็บตัวอย่างในลุ่มน้ำกก จำนวน 4 จุด และพื้นที่โดยรอบลุ่มน้ำกกจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 20 จุด พร้อมทั้งร่วมกำหนดแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำกกเสื่อมโทรม และนำเสนอนวัตกรรมตรวจวัดด้วยชุดทดสอบเคมีในน้ำ และเทคโนโลยีการปรับปรุงคุณภาพน้ำอีกด้วย

]]>
สวทช. โดย นาโนเทค จับมือ คพ. หนุนใช้นวัตกรรมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม นำร่องลุ่มน้ำกก-ฝุ่น PM2.5 https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-mou-pcd-17072025/ Fri, 18 Jul 2025 05:28:14 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26063

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 – สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนามความร่วมมือด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) กับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) มุ่งเน้นการบริหารจัดการคุณภาพอากาศ (PM2.5) และคุณภาพน้ำ นำร่องใช้นวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำ ร่วมแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำและลุ่มน้ำกก เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยให้เข้าถึงประชาชน แก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศอย่างยั่งยืน

ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ และแก้ไขปัญหาที่สำคัญของประเทศ โดยกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงาน ภายใต้แนวคิด “S&T Implementation for Sustainable Thailand” หรือ การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยยั่งยืน มุ่งเน้นเป้าหมายหลักใน 4 มิติ ได้แก่ การสร้างอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มการพึ่งพาตนเอง การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสร้างความยั่งยืนของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“ความร่วมมือด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อสนับสนุนพันธกิจการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ไปสู่การใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์ และแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ทำให้งานวิจัยเข้าถึงประชาชนและถึงผู้ใช้ประโยชน์จริงจากนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือนี้ไม่เพียงรวมทรัพยากรของสองหน่วยงาน แต่ยังเสริมพลังซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าผลรวมของแต่ละฝ่าย และเป็นแรงผลักดันให้ความรู้และนวัตกรรมเข้าถึงประชาชนอย่างกว้างขวาง สอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งสองหน่วยงาน” ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจย้ำ

ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า ที่ผ่านมา สวทช. โดยนาโนเทค ได้ร่วมประชุมกับกองจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ (นำโดยดร. ชานัน ติรณะรัต ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพน้ำ) กำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในประเด็นคุณภาพน้ำ จากวิจัยและพัฒนาซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของ สวทช. โดย นาโนเทค และเอ็มเทค (ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ) นำสู่การทำงานร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ หรือ สคพ. ในการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคสำหรับชุมชนภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างปี 2566-2567 เพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาดมากกว่า 2,700 ครัวเรือน ในปี 2568 มากกว่า 24,000 ครัวเรือน และจะขยายวงกว้างในพื้นที่อื่นในอนาคต โดยอาศัยนวัตกรรมตรวจวัดและปรับปรุงคุณภาพน้ำ กิจกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับทิศทางการวิจัยของนาโนเทคหรือที่เรียกว่า strategic focus : น้ำและสิ่งแวดล้อม ที่ตอบโจทย์และปัญหาที่สำคัญของประเทศ

“โครงการที่เราทั้งสองหน่วยงานคาดว่า จะดำเนินการร่วมกันภายใต้ความร่วมมือฯ นี้ คือ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำ เพื่อสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำและลุ่มน้ำกก ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา สวทช. ได้ลงพื้นที่ลุ่มน้ำกกในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สคพ. 1 เชียงใหม่ ในการเก็บตัวอย่างน้ำในลุ่มน้ำกก เพื่อนำไปวิเคราะห์ด้วยเซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้าตรวจวัดโลหะหนัก หรือ Chem Sense ที่เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์การปนเปื้อนโลหะหนัก ได้แก่ แคดเมียม ตะกั่ว ปรอท และสารหนู” ดร. อุรชากล่าว

ผลจากการตรวจด้วยนวัตกรรมเซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้าของนาโนเทคนั้นพบว่า สอดคล้องกันกับผลจากวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ แสดงให้เห็นว่า เครื่องมือนี้สามารถนำไปขยายผลเป็นเครื่องมือคัดกรอง ที่สามารถรู้ผลทันที สำหรับการเฝ้าระวังในพื้นที่ และดำเนินการป้องกัน-แก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ที่ครอบคลุมการต่อยอดใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ ของนาโนเทคอีกด้วย

เช่นเดียวกับการบริหารจัดการคุณภาพอากาศ (PM2.5) ก็เป็นโจทย์สำคัญของประเทศ ที่ สวทช. พร้อมจะทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนาไปใช้ขยายผลเพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมต่อไป

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันมีความรุนแรง ซับซ้อน และแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนา เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ ในการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในการพัฒนาเครื่องมือ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านนาโนเทคโนโลยี พันธุวิศวกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีโลหะวัสดุ และเทคโนโลยีด้านพลังงาน

“ที่ผ่านมา สวทช. ได้สนับสนุนเครื่องมือตรวจวัดโลหะหนักที่สำคัญ ๆ เช่นเครื่อง Chem Sense เครื่องเซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้า สำหรับตรวจวัดโลหะหนัก ซึ่งสามารถตรวจวัดเบื้องต้นในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ซึ่งสามารถสนับสนุนการทำงานของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งมีภารกิจหลักในการพัฒนามาตรฐานและ มาตรการการจัดการมลพิษ รวมถึงการกำกับ ดูแลและบังคับใช้กฎหมายในการจัดการมลพิษทั้งด้านน้ำ อากาศ เสียง กากของเสียและสารอันตราย ดังนั้น การบูรณาการในครั้งนี้จึงเป็นเพื่อการร่วมกันพัฒนาเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ อากาศ กากของเสีย สารเคมีหรือสารมลพิษต่าง ๆ และสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกันในอนาคตต่อไปนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีแบบแยกส่วนอีกต่อไป แต่เป็นการบูรณาการหลายเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างทันท่วงที” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าว

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษชี้ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญที่เราจะบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทย

 

]]>
นาโนเทค สวทช. ร่วมกับ สอวช. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำแผนที่นำทางการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย พ.ศ. 2571–2575 ครั้งที่ 2 เปิดรับความเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศ https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-nxp-trm2571-2575-14072025/ Tue, 15 Jul 2025 04:27:40 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26034

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำแผนที่นำทางการวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย พ.ศ. 2571–2575 ครั้งที่ 2  เพื่อระดมความเห็นในการกำหนดแนวทางการจัดทำแผนที่นำทางการวิจัยและพัฒนานาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย (Thailand Nanotechnology Roadmap) ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2571 – พ.ศ. 2575) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานด้านการวิจัย สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ ที่จะช่วยต่อยอดและยกระดับผลงานวิจัยทางด้านวิชาการ มุ่งสู่การใช้งานได้จริงในทุกภาคส่วน

 

พบกับ

"การจัดระดมความเห็นเพื่อกำหนดแนวทางการวิจัยและพัฒนานาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย" ครั้งถัดไป ในงาน อว.แฟร์ ครั้งที่ 2 วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

]]>
สวทช. โดยนาโนเทค ร่วมกับพันธมิตร ต่อยอด “สารหน่วงไฟจากขยะเปลือกหอย” สู่โครงการ “โรงเรียนปลอดภัย ห่างไกลอัคคีภัยด้วยนวัตกรรมจากขยะอาหาร” https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-bkkqp-beger-safetyschool-04072025/ Mon, 07 Jul 2025 03:57:24 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26018  

วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์เด็กปฐมวัยเมอร์ซี่ กทม. – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมกับโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค, บริษัท เบเยอร์ จำกัด และกรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการ “โรงเรียนปลอดภัย ห่างไกลอัคคีภัยด้วยนวัตกรรมจากขยะอาหาร” ส่งต่อนวัตกรรมสารหน่วงไฟแคลเซียมคาร์บอเนตแปรรูปจากขยะเปลือกหอยสู่ “สีหน่วงไฟ” สีทาภายในอาคาร นำร่องลงพื้นที่ทาสีอาคาร ณศูนย์เด็กปฐมวัยเมอร์ซี่ (HDF Mercy Centre) เขตคลองเตย ก่อนขยายสู่พื้นที่ต่างๆ หวังยกระดับความปลอดภัยจากอัคคีภัยแก่ศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ชุมชนต่างๆ

ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ และปัญหาที่สำคัญของประเทศ นาโนเทคเองก็มุ่งมั่นใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

“ความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย เพิ่มมูลค่าให้กับขยะอินทรีย์อย่างเปลือกหอยร่วมกับภาคเอกชนที่มองเห็นโอกาสในการนำ วทน. ผสานกับจุดแข็งของแต่ละภาคส่วน สร้างนวัตกรรมที่ตอบความต้องการของชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศอย่างยั่งยืน”

ผลงานวิจัยเรื่อง “ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสารหน่วงไฟจากนาโนแคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟต/แคลเซียมคาร์บอเนต” โดย ดร. ชุติพันธ์ เลิศวชิรไพบูลย์ ทีมวิจัยวัสดุตอบสนองระดับนาโน (RNM) กลุ่มวิจัยวัสดุตอบสนองและเซ็นเซอร์ระดับนาโน (RMNS) โดยทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นั้น เป็นการแปรรูปขยะเปลือกหอย (หอยแมลงภู่, หอยนางรม ฯลฯ) เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตสารหน่วงไฟ ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดให้ขยะเปลือกหอยเป็นวัสดุขั้นสูง สร้างมูลค่าให้กับขยะทางการเกษตร การเตรียมสารหน่วงไฟจากนาโนแคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟต/แคลเซียมคาร์บอเนตสามารถเตรียมให้อยู่ในรูปแบบของแข็งลักษณะเป็นผง และของเหลวได้ ตัวอย่างการใช้งานของนาโนแคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟต/แคลเซียมคาร์บอเนตสามารถทำให้กระจายตัวในน้ำสำหรับฉีดพ่นบนพื้นที่ต้องการให้มีคุณสมบัติหน่วงไฟ หรือผสมกับพอลิเมอร์เพื่อผลิตเป็นชิ้นงานที่มีคุณสมบัติหน่วงไฟ เช่น ผสมสารหน่วงไฟกับพลาสติกขึ้นรูปเป็นเส้นสำหรับการพิมพ์ชิ้นงานด้วยกระบวนการพิมพ์สามมิติ เป็นต้น

สำหรับโครงการ “โรงเรียนปลอดภัย ห่างไกลอัคคีภัยด้วยนวัตกรรมจากขยะอาหาร” เป็นการนำขยะอินทรีย์ของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โดยเฉพาะเปลือกหอยนางรมเหลือทิ้งที่มีปริมาณมากถึง 1 ตันต่อเดือนจากห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ โกจิ คิทเช่น และบาร์ มาร่วมวิจัยและพัฒนากับนาโนเทค สวทช. ในการพัฒนาเป็น “สารหน่วงไฟ” ที่ดสอบแล้วพบว่า มีสมบัติการหน่วงไฟตามมาตรฐาน UL94 V-0 ที่สามารถดับไฟได้เองภายใน 10 วินาที และไม่มีเปลวไฟหยด จากนั้น เกิดการต่อยอดกับพันธมิตรอย่างบริษัท เบเยอร์ จำกัดในการพัฒนา “สีหน่วงไฟ” ที่เหมาะสำหรับการทาภายในอาคาร โดยเฉพาะในชุมชนที่มีกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ

คุณไซมอน เบลล์ ผู้บริหารโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กล่าวว่า โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมบริการ ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ และชุมชน ที่สามารถเปลี่ยนขยะอินทรีย์ด้อยค่า ใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าและช่วยยกระดับความปลอดภัยในชีวิตจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยจุดเริ่มต้นง่ายๆ อย่างการจัดการขยะประเภทต่างๆ อย่างเป็นระบบ แยกขยะอาหาร ไม่เทรวม เพื่อให้วัสดุที่มีคุณค่ามีที่ไปต่อผ่านฃการวิจัยและพัฒนาโดยนาโนเทค การจัดการขยะให้กลายเป็นทรัพยากรของโรงแรม และการพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์จริงโดยภาคเอกชนอย่างเบเยอร์ ทุกภาคส่วนต่างมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงช่วยลดปัญหาขยะอาหาร แต่ยังสร้างคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ดร. วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าวว่า ตามปณิธานของเบเยอร์ เราไม่เคยหยุดเพียงแค่การให้สีสันที่สวยงามหรือความคงทน แต่เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยหัวใจของนวัตกรรม เพื่อส่งมอบสุขภาวะที่ดีและการปกป้องที่มากกว่าสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร เราจึงเลือก BegerCool All-Plus Interior ซึ่งนอกจากจะช่วยลดอุณหภูมิและหน่วงไฟได้ในตัวแล้ว การร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการเสริมเกราะป้องกันอีกขั้น ผ่านนวัตกรรมจากสารเติมแต่งที่ต่อยอดจาก วัสดุเหลือใช้ทางอาหาร (food waste) โดย Marriott และการพัฒนาร่วมกับนักวิจัยจาก นาโนเทค สวทช. ซึ่งโครงการนี้สะท้อนหัวใจของเบเยอร์อย่างชัดเจนว่า “สีที่ดี” ต้องไม่ใช่แค่เรื่องของพื้นผิว แต่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สร้างประโยชน์ที่ยั่งยืน และร่วมดูแลสังคมไปพร้อมกัน

 

สนใจนวัตกรรมด้านนี้ ติดต่อ

ดร. ชุติพันธ์ เลิศวชิรไพบูลย์

ศูนย์นาโนเทคโนยีแห่งชาติ

สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช)
Email: chutiparn.ler@nanotec.or.th

]]>
รับสมัคร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ https://www.nanotec.or.th/th/2025-entec-director-recruitment/ Wed, 02 Jul 2025 08:18:01 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26014 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA) เป็นองค์กรชั้นนำของประเทศในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ต้องการรับสมัครผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ เพื่อเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป วาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) มีภารกิจในการดำเนินการวิจัย การสนับสนุนการวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ในด้านเทคโนโลยีพลังงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างสูงต่อความสามารถในการผลิตและความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จึงใคร่เชิญชวนผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568

โดยมีรายละเอียดตามเอกสารดาวน์โหลด

 

ติดต่อขอรายละเอียดประกาศรับสมัครและเอกสารเพิ่มเติมได้ที่
นางสาวกุศล ทองวัน
e-mail: kusol.thongwan@nstda.or.th
โทรศัพท์ 0 2564 7000 ต่อ 1442

]]>
นาโนเทค ต้อนรับคณะกรรมการบริหารศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ครั้งที่2/2568 https://www.nanotec.or.th/th/boardmeeting2-2025/ Fri, 27 Jun 2025 14:39:05 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=26006
 
วันที่ 27 มิถุนายน 2568 ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. จัดประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์ฯ ครั้งที่ 2/2568 นำเสนอทิศทางการดำเนินงานของศูนย์ฯ ต่อยอดผลงานวิจัยจากความเชี่ยวชาญด้านนาโนเทคโนโลยี เพื่อนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเสนอ NANOTEC Technology Roadmap ที่เชื่อมโยงกับโจทย์ความต้องการของประเทศ ใน 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก รวมถึงเยี่ยมชมผลการดำเนินงานและห้องปฏิบัติการวิจัย ตอบโจทย์ Strategic Focus ด้านสารสกัดสมุนไพร ชุดตรวจสุขภาวะ เกษตรและอาหาร น้ำและสิ่งแวดล้อม ที่พร้อมต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ในระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
 

 

]]>