คำอธิบายโดยย่อ (Meta description):
วิเคราะห์เชิงปริมาณของพื้นที่ผิวและความพรุนของวัสดุผงด้วยเทคนิค BET ของนาโนเทค—รายงานผลพื้นที่ผิวจำเพาะ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและปริมาตรของรูพรุน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาสูตร การควบคุมผู้จัดจำหน่าย และการแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพ
คำสำคัญสำหรับ SEO (SEO Keywords):
BET, บรูนเนาน์เออร์-เอ็มเม็ตต์-เทลเลอร์, การวิเคราะห์พื้นผิว, การกระจายขนาดรูพรุน, นาโนเทคโนโลยี, การวัดปริมาตรรูพรุน, การจำแนกลักษณะเฉพาะของวัสดุผง, ความพรุนของตัวเร่งปฏิกิริยาและตัวดูดซับ, สารให้สี สารตัวเติม เครื่องสำอาง, ผงเซรามิกและแบตเตอรี่, การจำแนกลักษณะเฉพาะพื้นผิววัสดุ, สารเติมแต่งสำหรับบรรจุภัณฑ์และฟิล์ม, การทดสอบวัสดุตัวกลางในสิ่งแวดล้อม
ความสำคัญของเทคนิค BET
หากผลิตภัณฑ์ของคุณเริ่มต้นจากวัสดุผง—เช่น ตัวเร่งปฏิกิริยา, ตัวดูดซับ, สารให้สี, สารตัวเติม, หรือสารตั้งต้นสำหรับเซรามิกและแบตเตอรี่—ประสิทธิภาพของวัสดุนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณพื้นที่ผิวที่มีอยู่และการจัดเรียงตัวของพื้นผิวนั้นในรูปแบบของรูพรุน พื้นที่ผิวจำเพาะ (Specific surface area) ส่งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา, ความสามารถในการดูดซับ, การมีปฏิสัมพันธ์กับสารยึดเกาะ และความสามารถในการกระจายตัว ส่วนขนาดและปริมาตรของรูพรุนเป็นตัวกำหนดการดูดซับตัวทำละลาย, การขนส่งของเหลวในระดับจุลภาค (capillary transport), คุณสมบัติการไหลและการจัดเรียงตัว รวมถึงการที่สารเติมแต่งสามารถยึดเกาะกับอนุภาคได้อย่างไร วัสดุสองชนิดที่มีขนาดอนุภาคจากการร่อนผ่านตะแกรง (sieve cut) หรือมีกราฟขนาดอนุภาคจากเทคนิคเลเซอร์ดิฟแฟรกชัน (laser-diffraction) อาจแสดงคุณสมบัติที่แตกต่างกันในเครื่องบด, สารเคลือบ หรือเครื่องปฏิกรณ์ เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมพื้นผิวภายใน (internal surface architecture) ที่แตกต่างกัน
บริการวิเคราะห์พื้นที่ผิวและความพรุนด้วยเทคนิค BET ของ NANOTEC จะแปรค่าทดสอบเหล่านี้ให้กลายเป็นตัวเลขเชิงปริมาณที่ชัดเจนเพื่อให้คุณนำไปใช้งานได้ ข้อมูลที่ได้มีประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ, การปรับปรุงกระบวนการกระตุ้นผิวหรือการบด, การผลิตแต่ละล็อต ไปจนถึงการจัดทำเอกสารข้อกำหนดสำหรับลูกค้าและผู้ตรวจสอบ การทดสอบทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบคุณภาพ ISO 9001 และสามารถทำร่วมกับเทคนิคเสริมอื่นๆ ได้ เช่น E-SEM/AFM สำหรับสัณฐานวิทยาและลักษณะพื้นผิวระดับนาโน, Contact Angle สำหรับการประเมินสภาพของเม็ดยาอัด และ DLS สำหรับขนาดอนุภาคในของเหลว
หลักการทำงานของ BET: เปลี่ยนการดูดซับให้เป็นค่าชี้วัดพื้นผิว
เทคนิคบรูนเนาน์เออร์-เอ็มเม็ตต์-เทลเลอร์ (BET) คือเทคนิคการดูดซับแก๊ส (gas adsorption) ภายใต้อุณหภูมิและความดันที่ควบคุม แก๊สดูดซับเฉื่อย (inert adsorptive gas) จะเกิดการดูดซับทางกายภาพ (physisorption) บนพื้นผิวของของแข็ง โดยการวัดปริมาตรแก๊สที่ถูกดูดซับ ณ ช่วงความดันสัมพัทธ์ต่างๆ และนำข้อมูลไปสร้างแบบจำลอง BET ในช่วงเส้นตรงของไอโซเทอร์ม (isotherm) เราจะสามารถประเมินความจุในการดูดซับแบบชั้นเดียว (monolayer capacity) และคำนวณหาพื้นที่ผิวจำเพาะ (m²/g) ได้ หากต้องการจำแนกลักษณะของรูพรุน การวิเคราะห์เพิ่มเติมจากไอโซเทอร์มการดูดซับ-การคายซับ (adsorption–desorption isotherm) จะให้ข้อมูลขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง) และปริมาตรของรูพรุน ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับวัสดุที่มีรูพรุนขนาดเมโซ (mesoporous materials)
การทดสอบด้วยเครื่อง BET สามารถให้ข้อมูล ดังนี้:
- ความแตกต่างระหว่างล็อตการผลิตที่มีพื้นที่ผิวสูงและต่ำ แม้ว่าขนาดอนุภาคโดยรวมจะดูใกล้เคียงกัน
- การเปลี่ยนแปลงของรูพรุนและพื้นผิวอันเป็นผลมาจากการกระตุ้นผิว (activation), การเผา (calcination) หรือการบด
- คำอธิบายสำหรับความแตกต่างในการกระจายตัว และการเปลี่ยนแปลงความหนืดหรือความทึบแสง
- การแปลผลการทดสอบที่ช่วยให้ฝ่ายวิจัยและพัฒนา, ฝ่ายประกันคุณภาพ, ฝ่ายจัดซื้อ และลูกค้าเข้าใจตรงกันว่า “ผงที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน” นั้นหมายถึงอะไร
เนื่องจากเทคนิคนี้ตอบสนองต่อพื้นผิวที่เข้าถึงได้ จึงมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับกระบวนการผลิต—สิ่งที่แก๊สดูดซับสามารถเข้าถึงได้ ตัวทำละลายและสารยึดเกาะก็สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
การทดสอบนี้ควรใช้กับอะไร และรูปแบบรายงานที่จะได้รับประกอบด้วยอะไร
รูปแบบรายงาน
- พื้นที่ผิวจำเพาะ (m²/g)
- ขนาดรูพรุน (เส้นผ่านศูนย์กลาง)
- ปริมาตรรูพรุน
ควรใช้การทดสอบ BET :
- การประเมินคุณภาพผู้จัดจำหน่าย และกำหนดเกณฑ์การยอมรับสำหรับวัสดุตัวเร่งปฏิกิริยา/ตัวดูดซับ, สารให้สี หรือสารตัวเติม
- ปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการผลิต—การบด, การทำแกรนูล, การกระตุ้นผิว, การเผา—และทวนสอบผลกระทบก่อนขยายขนาดการผลิต
- หาความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพ (ความสามารถในการดูดซับ, อัตราการเกิดปฏิกิริยา, ความทึบแสง, ลักษณะเนื้อสัมผัส, ความสามารถในการไหล) กับพารามิเตอร์พื้นผิวที่วัดได้
- แก้ไขปัญหาความเบี่ยงเบนในการผสม, ความคงตัวของการกระจายตัว หรือความหนาแน่นในการบรรจุ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวภายใน
- จัดทำเอกสารข้อกำหนดเฉพาะสำหรับลูกค้าและผู้ตรวจสอบด้วยค่าชี้วัดเชิงปริมาณที่สามารถตรวจสอบได้
ประเภทวัสดุที่เรารับการทดสอบ
- ตัวเร่งปฏิกิริยาและตัวดูดซับ (ถ่านกัมมันต์, อะลูมินา, ซีโอไลต์, MOFs)
- สารให้สีและสารตัวเติม (TiO₂, ซิลิกา, ทัลก์, CaCO₃) สำหรับเครื่องสำอาง, สารเคลือบ, พลาสติก
- ผงเซรามิกและแบตเตอรี่ (เช่น สารตั้งต้น LFP/NMC, อะลูมินา/เซอร์โคเนีย)
- ผงสำหรับอุตสาหกรรมฟังก์ชันนอล/อาหาร (สารกักเก็บ, สารนำพา)
- วัสดุตัวกลางในสิ่งแวดล้อม (ชั้นกรอง, เรซิน/ตัวกลางแลกเปลี่ยนไอออน)
หากคุณต้องการรายงานผลการทดสอบที่มากกว่า “มีพื้นผิวเท่าไหร่?” ควรใช้การทดสอบ BET ร่วมกับ E-SEM เพื่อดูภาพของอนุภาคและการรวมกลุ่ม, AFM เพื่อวัดลักษณะพื้นผิวระดับนาโนบนฟิล์ม, Contact Angle เพื่อประเมินสภาพของพื้นผิวที่ถูกบดอัด หรือ DLS เพื่อเชื่อมโยงคุณสมบัติของผงเข้ากับพฤติกรรมในรูปของสารแขวนลอยหรือหมึกพิมพ์
เครื่องมือและข้อกำหนดของตัวอย่าง
การวิเคราะห์ทดสอบ BET ที่ NANOTEC ดำเนินการด้วยเครื่องวิเคราะห์พื้นที่ผิวและความพรุน Micromeritics 3Flex ซึ่งเหมาะสำหรับวัสดุผงทั้งในงานวิจัยและอุตสาหกรรม
- เครื่องมือ: Micromeritics 3Flex (BET/วิเคราะห์พื้นที่ผิวและความพรุน)
- ประเภทตัวอย่าง: วัสดุผง
- ปริมาณตัวอย่างขั้นต่ำ: ≥ 1 กรัม
- การเตรียมตัวอย่าง: การกำจัดแก๊สออกจากพื้นผิว (Degassing) ประมาณ 12 ชั่วโมง ที่ 150 °C (สามารถปรับเปลี่ยนได้หากวัสดุของคุณไวต่อความร้อน)
การทดสอบควรมีการกำจัดแก๊สเพื่อกำจัดความชื้นและสารระเหยที่ดูดซับอยู่โดยไม่เปลี่ยนแปลงพื้นผิว หากวัสดุผงของคุณมีส่วนผสมของสารยึดเกาะ, ตัวทำละลายตกค้าง หรือองค์ประกอบที่สลายตัวง่ายเมื่อได้รับความร้อน โปรดแจ้งให้เราทราบ ณ เวลาที่จองบริการ เราจะปรับขั้นตอนให้เหมาะสมเพื่อปกป้องวัสดุและให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ
รายงานผลการทดสอบ
รายงานผลการทดสอบ BET ที่ผ่านการวิเคราะห์ตามวิธีมาตรฐานจาก NANOTEC คุณสามารถนำไปใช้ในระบบประกันคุณภาพ (QA) หรือส่งมอบให้ลูกค้า:
- พื้นที่ผิวจำเพาะ (m²/g) พร้อมรายละเอียดแบบจำลอง/ความสอดคล้อง
- ขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง) และปริมาตรของรูพรุน (ในกรณีที่เหมาะสม)
- สรุปผลไอโซเทอร์ม (กราฟและช่วงความดันที่ใช้ในการวิเคราะห์)
- สรุประเบียบวิธีวิเคราะห์—สภาวะการเตรียมตัวอย่าง/การกำจัดแก๊ส และหมายเหตุที่เกี่ยวข้องกับการจัดการตัวอย่าง
- ตารางเปรียบเทียบสำหรับล็อตการผลิตที่แตกต่างกันหรือสภาวะของกระบวนการที่แตกต่างกัน (ตามคำขอ)
- หมายเหตุเชิงวิเคราะห์ที่เชื่อมโยงผลลัพธ์กับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตัวอย่าง
หากองค์กรของคุณมีรูปแบบรายงานของตนเองหรือต้องการรายงานสองภาษา เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ, หัวข้อ และคำศัพท์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเอกสารของคุณได้
ผลการทดสอบด้วย BET ขับเคลื่อนการตัดสินใจที่ดีขึ้นได้อย่างไร
- การควบคุมคุณภาพวัตถุดิบรับเข้า (IQC)
BET เป็นเครื่องมือคัดกรองเชิงปริมาณที่รวดเร็วควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ขนาดอนุภาคและความชื้น คุณสามารถปฏิเสธหรือกักกันล็อตการผลิตที่ค่าพื้นที่ผิวหรือปริมาตรรูพรุนอยู่นอกเกณฑ์ที่กำหนดได้ ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์
- การพัฒนาและขยายขนาดกระบวนการผลิต
ปรับอุณหภูมิ/เวลาในการกระตุ้นผิว หรือพารามิเตอร์การบด และสามารถเห็นผลได้ทันทีว่าพื้นที่ผิวและความพรุนของคุณอยู่ในช่วงเป้าหมายหรือไม่ ลดการคาดเดาในระหว่างการผลิต
- การแก้ไขปัญหาและการวิเคราะห์ความเสียหาย
เมื่อตัวเร่งปฏิกิริยามีประสิทธิภาพลดลง, สารเคลือบข้นขึ้น หรือเม็ดยาเกิดการแตกแยกชั้น (capping), BET จะช่วยยืนยันได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับพื้นผิว (การสูญเสียพื้นที่ผิว, การยุบตัวของรูพรุน, การอุดตันของรูพรุน) เป็นสาเหตุหรือไม่ ควรใช้ร่วมกับ E-SEM เพื่อดูภาพการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
- การสื่อสารกับลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล
ค่าชี้วัดจาก BET เป็นที่ยอมรับสำหรับตัวอย่างที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา, การดูดซับ, เซรามิก และสารให้สี ข้อมูลพื้นที่ผิวและรูพรุนในเอกสารข้อมูลทางเทคนิค (TDS) และใบรับรองผลการวิเคราะห์ (COA) ช่วยสร้างน่าเชื่อถือและมาตาฐานของผลิตภัณฑ์
แนวทางการเตรียมตัวอย่าง
เทคนิค BET มีความไวต่อความสะอาดของพื้นผิวและสารระเหยที่ถูกดูดซับ การเตรียมตัวอย่างที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันความคลาดเคลื่อน
- ผงควรอยู่ในสภาวะที่แห้ง: จัดส่งในภาชนะที่ปิดสนิท หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความชื้นในอากาศก่อนส่ง
- แจ้งขั้นตอนการบด/การกระตุ้นผิว/การเผา และสภาวะการเก็บรักษา
- การคัดเลือกตัวอย่างที่เหมาะสม: สำหรับล็อตการผลิตที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ให้ส่งตัวอย่างแบบผสม (composite) หรือตัวอย่างย่อยหลายๆ ตัวอย่าง พร้อมระบุรหัสล็อต
- แจ้งรายละเอียดต่างๆของตัวอย่าง: หากผงมีความไวต่อความชื้นหรือความร้อน หรือมีส่วนผสมของสารยึดเกาะที่สลายตัวภายใต้ความร้อน/สุญญากาศ เราจะปรับขั้นตอนการกำจัดแก๊ส (เวลา/อุณหภูมิ) ให้เหมาะสม
- ความปลอดภัย: โปรดแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับอันตราย (ฝุ่นละเอียด, ผงที่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยา, สารอินทรีย์ที่ถูกดูดซับ) ทีมงานของเราจะดำเนินการจัดการ, ระบายอากาศ และกำจัดของเสียอย่างเหมาะสม
- ปริมาณขั้นต่ำ: ≥ 1 กรัม เพียงพอสำหรับการทดสอบ
ข้อควรพิจารณาและแนวปฏิบัติที่ดี
- ช่วงการวิเคราะห์: เราเลือกช่วงเส้นตรงของไอโซเทอร์มสำหรับการสร้างแบบจำลอง BET โดยในรายงานจะระบุช่วงความดันสัมพัทธ์ที่ใช้และการตรวจสอบความสอดคล้องต่างๆ (เช่น ความสมเหตุสมผลของค่าคงที่ C)
- วัสดุที่ไม่มีรูพรุน/มีรูพรุน: สำหรับผงที่ไม่มีรูพรุนหรือมีความพรุนต่ำ พื้นที่ผิวจำเพาะจะเป็นตัวชี้วัดหลัก สำหรับระบบที่มีรูพรุนขนาดเมโซ เราสามารถเพิ่มการวิเคราะห์ขนาด/ปริมาตรของรูพรุนจากไอโซเทอร์มการดูดซับ-การคายซับได้
- การเปรียบเทียบ: สำหรับการเปรียบเทียบผู้จัดจำหน่ายหรือกระบวนการผลิต ความสม่ำเสมอในการเตรียมตัวอย่าง (ขั้นตอนการกำจัดแก๊ส) และการตั้งค่าการวิเคราะห์จะทำให้มั่นใจได้ว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงตัววัสดุ ไม่ใช่ตัวระเบียบวิธี
- ประสิทธิภาพ: พื้นที่ผิวไม่ใช่คำตอบทั้งหมด หากกระบวนการของคุณขึ้นอยู่กับสภาพ, รูปร่างอนุภาค หรือลักษณะพื้นผิวระดับนาโน ควรใช้ BET ร่วมกับ Contact Angle, E-SEM/AFM และ DLS เพื่อให้เห็นภาพความสัมพันธ์และผลที่ชัดเจนขึ้น
การประยุกต์ใช้ BET ในกระบวนการวิจัยและพัฒนาและควบคุมคุณภาพ
- การออกแบบการทดลอง (DoE): ใช้ BET เป็นตัวแปรตอบสนอง (response variable) เมื่อคัดกรองการกระตุ้นผิวหรือสูตรการบด
- กรอบข้อกำหนดของสูตรตำรับ: กำหนดช่วงที่ยอมรับได้ของพื้นที่ผิว/ปริมาตรรูพรุนสำหรับสารให้สี, สารตัวเติม หรือสารออกฤทธิ์ เพื่อให้ความหนืด, ความทึบแสง หรือเนื้อสัมผัสยังคงอยู่ในเกณฑ์
- การจัดการผู้จัดจำหน่าย: กำหนดให้มีใบรับรองผล BET สำหรับผงที่สำคัญและทวนสอบเป็นระยะโดยบุคคลที่สามที่ NANOTEC สร้างคลังข้อมูล สำหรับการรับรองผู้จัดจำหน่ายรายใหม่
- การควบคุมการเปลี่ยนแปลง: การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เสนอเกี่ยวกับวัตถุดิบ, ผู้ขาย หรือกระบวนการ สามารถประเมินความเสี่ยงโดยใช้ BET (และเทคนิคเสริม) ก่อนนำไปใช้จริง
การเลือกทดสอบร่วมกับเทคนิคอื่นๆ
- E-SEM (Environmental SEM): แสดงภาพขอบอนุภาค, การรวมกลุ่ม, รอยแตก และลักษณะพื้นผิว เพื่ออธิบายพฤติกรรมการกระจายตัวหรือการจัดเรียงตัว เหมาะสำหรับผงที่ไม่นำไฟฟ้าโดยใช้การเคลือบเพียงเล็กน้อย
- AFM (Atomic Force Microscopy): ลักษณะพื้นผิว/ความหยาบระดับนาโนบนเม็ดยาอัดหรือฟิล์มอัด
- Contact Angle & Surface Energy: ประเมินสภาพของเม็ดยาอัดหรือสับสเตรตที่เคลือบ—เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการยึดเกาะ, การวางตัวของหมึกพิมพ์, ความสามารถในการทำความสะอาด และพฤติกรรมของสารแขวนลอย
- DLS (Dynamic Light Scattering): หากผงของคุณถูกนำไปใช้ในรูปของสารแขวนลอย DLS จะวัดขนาดอนุภาคในของเหลวและศักย์ซีตา (zeta potential) เพื่อเชื่อมโยงคุณสมบัติของผงกับประสิทธิภาพของสารแขวนลอยหรือหมึกพิมพ์
เทคนิคเหล่านี้เมื่อใช้ร่วมกันจะให้ผลการทดสอบที่สอดคล้องกันจากหลายเทคนิค ซึ่งไม่เพียงแต่อธิบายว่า อะไร เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังอธิบายว่า ทำไม และ จะแก้ไขอย่างไร
บริการนี้เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ผลิตตัวเร่งปฏิกิริยาและตัวดูดซับ (องค์กรธุรกิจ/OEM): ต้องการให้ผลิตภัณฑ์มีกิจกรรมและความสามารถในการดูดซับที่สม่ำเสมอ ใช้ BET เพื่อควบคุมการกระตุ้นผิว, เปรียบเทียบผู้จัดจำหน่าย และจัดทำข้อกำหนดที่ลูกค้าไว้วางใจ
- อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง, สารเคลือบ และพลาสติก (สารให้สี/สารตัวเติม): ความทึบแสง, ความหนืด และเนื้อสัมผัสขึ้นอยู่กับพื้นผิวและความพรุน BET ช่วยปรับปรุงการบดหรือการปรับปรุงพื้นผิว และข้อกำหนดเกณฑ์ QC
- อุตสาหกรรมเซรามิก, อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุพลังงาน: พฤติกรรมการเผาผนึก (sintering) และประสิทธิภาพทางเคมีไฟฟ้าสัมพันธ์กับพื้นที่ผิวจำเพาะและโครงสร้างรูพรุน BET ช่วยสนับสนุนการกำหนดกระบวนการผลิตและประสิทธิภาพ
- วัสดุตัวกลางสำหรับสิ่งแวดล้อมและการบำบัดน้ำ: ความจุและจลนพลศาสตร์ขึ้นอยู่กับพื้นผิว BET เป็นเครื่องมือตรวจสอบสภาพเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วก่อนนำวัสดุไปใช้งาน
- SMEs และ Tech Startups: ก่อนขยายขนาดการผลิต ใช้การทดสอบ BET เพื่อทวนสอบคำกล่าวอ้างของผู้จัดจำหน่ายและหาความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการกับพารามิเตอร์พื้นผิวที่วัดได้
ระยะเวลาและการนัดหมาย
ตารางการให้บริการ BET ขึ้นอยู่กับสองปัจจัย: ปริมาณงานในห้องปฏิบัติการและเวลาในการเตรียมตัวอย่าง โดยปัจจัยหลักคือการกำจัดแก๊ส (degassing) ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงที่ 150 °C เพื่อกำจัดความชื้น/สารระเหยที่ถูกดูดซับโดยไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีของพื้นผิว
ข้อแนะนำในการวางแผน: หากคุณมีกำหนดเวลาที่จำกัดหรือมีตัวอย่างหลายล็อต โปรดแจ้งให้เราทราบ ณ เวลาที่จอง เราจะจัดลำดับการกำจัดแก๊สและการวิเคราะห์เพื่อให้คุณ
สำหรับโครงการที่ใช้หลายเทคนิค: หากคุณใช้บริการ BET ร่วมกับบริการอื่น (เช่น การทดสอบทางจุลชีววิทยาที่ต้องใช้เวลา 4 วันทำการติดต่อกัน) เราจะวางแผนการทดสอบให้เหมาะสม
ภาพรวมอัตราค่าบริการ
โปรดใช้ราคาเบื้องต้นนี้เพื่อประเมินขอบเขตงานของคุณ เราจะจัดทำใบเสนอราคาอย่างเป็นทางการโดยพิจารณาจากจำนวนตัวอย่าง, จำนวนการวัดซ้ำ และรูปแบบของรายงาน
- วิเคราะห์พื้นที่ผิวและความพรุนด้วย BET (วัสดุผง): เริ่มต้นที่ 2,000 บาทต่อตัวอย่าง
- ทางเลือกเพิ่มเติม: การเปรียบเทียบหลายล็อต, หมายเหตุ/คำอธิบายประกอบเพิ่มเติม, กราฟไอโซเทอร์มในภาคผนวก, การทดสอบหลายเทคนิค (เช่น BET + E-SEM; BET + Contact Angle บนฟิล์มอัด; BET + AFM สำหรับลักษณะพื้นผิวระดับนาโน)
คำถามที่พบบ่อย (สรุป)
- BET บอกอะไรเราได้บ้าง?
เทคนิคนี้ใช้วิเคราะห์เชิงปริมาณของพื้นที่ผิวจำเพาะ และในกรณีที่เหมาะสม สามารถประเมินขนาดและปริมาตรของรูพรุนได้ ซึ่งเป็นพารามิเตอร์ที่ขับเคลื่อนการดูดซับ, อัตราการเกิดปฏิกิริยา และพฤติกรรมการกระจายตัว
- ผงที่ไม่มีรูพรุนจะได้รับประโยชน์จาก BET หรือไม่?
ได้รับประโยชน์ แม้จะไม่มีรูพรุน แต่พื้นที่ผิวจำเพาะก็ยังคงมีอิทธิพลต่อ การยึดเกาะ และการจัดเรียงตัวของผง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสารเคลือบ, เม็ดยา และเซรามิก
- ตัวอย่างจำเป็นต้องถูกทำให้แห้งหรือกำจัดแก๊สหรือไม่?
โดยส่วนใหญ่มักจะจำเป็น การเตรียมตัวอย่างจะถูกปรับให้เข้ากับวัสดุของคุณเพื่อกำจัดความชื้นหรือสารระเหยที่ถูกดูดซับโดยไม่เปลี่ยนแปลงพื้นผิว โปรดแจ้งให้เราทราบถึงความไวของวัสดุเพื่อที่เราจะได้เลือกสภาวะที่เหมาะสม
- สามารถเปรียบเทียบผู้จัดจำหน่ายหรือล็อตการผลิตโดยตรงได้หรือไม่?
ได้ รายงานผลการทดสอบ BET แบบเปรียบเทียบ (พื้นที่ผิว, ขนาด/ปริมาตรรูพรุน) ทำให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนสำหรับฝ่ายประกันคุณภาพและฝ่ายจัดซื้อ และมักจะอธิบายความแตกต่างในกระบวนการผลิตที่สังเกตได้
- จะเชื่อมโยงผล BET กับประสิทธิภาพได้อย่างไร?
ใช้ BET ร่วมกับสัณฐานวิทยา (E-SEM), ลักษณะพื้นผิวระดับนาโน (AFM), Contact Angle หรือข้อมูลทางเคมี (FTIR/Raman) เพื่อสร้างความเข้าใจเชิงกลไกและกำหนดข้อกำหนดเฉพาะ
ติดต่อและขอรับบริการ
ขอใบเสนอราคาสำหรับการวิเคราะห์ BET หรือนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาในการออกแบบแผนการจำแนกลักษณะเฉพาะของผงที่เหมาะสมกับคุณ เราพร้อมส่งมอบแผนการทดสอบ ให้คำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับงานวิจัยและพัฒนา, การควบคุมคุณภาพ และการจัดทำเอกสารสำหรับลูกค้า พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคอื่นๆเมื่อค่าชี้วัดเดียวไม่เพียงพอ
ติดต่อเรา
ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Services)
ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC)
143 อาคาร INC 2 (B) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
โทร. +66 2 564 7100 ต่อ 6517, 6625, 6680
อีเมล: bdis-infs@nanotec.or.th