“ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” พาทีมเยาวชนผู้ชนะเลิศ เปิดโลกการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ณ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศต้นแบบด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนสุดแห่งหนึ่งของโลก

เมื่อวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2568 โครงการ “ลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า” โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ สวทช. โดยนาโนเทค นำทีมเยาวชนผู้ชนะเลิศการประกวดนวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลกปีที่ 2 เข้าศึกษาดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ณ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีระบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครบวงจรและจริงจังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมุ่งให้เยาวชนได้รับองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมจากประสบการณ์จริง เกิดความเข้าใจเชิงระบบ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เห็นปัญหาในชุมชนของตน พร้อมคิดหาแนวทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้เข้าศึกษาดูงานสถานที่สำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่
Okazaki City Firefly School – ศูนย์การเรียนรู้และประสบการณ์ธรรมชาติในเมืองโอคาซากิ จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ในอาคารของโรงเรียนประถมเก่าชื่อ “โรงเรียนโทริคาวะ (Torikawa Elementary School)” โดยถูกดัดแปลงให้เป็นศูนย์ศึกษาเรื่องหิ่งห้อยและสิ่งแวดล้อม พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์หิ่งห้อย ซึ่งนับเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทำให้เยาวชนได้เรียนรู้ระบบการเพาะเลี้ยงหิ่งห้อยซึ่งต้องอาศัยน้ำที่สะอาด ปราศจากสารเคมี แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้ำ ระบบนิเวศ และความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต สะท้อนแนวคิดของญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล และยังเป็นพื้นที่เปิดให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสและเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Shizuoka City flood control – ศูนย์การเรียนรู้เมืองชิซูโอกะด้านการจัดการน้ำและอุทกภัย ที่มีการนำเสนอให้ได้เห็นภาพจริงของการจัดการน้ำท่วมเชิงระบบของญี่ปุ่น ผ่านนิทรรศการที่อธิบายประวัติภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ของเมืองฯ ภูมิประเทศของลุ่มน้ำ ไปจนถึงเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ป้องกันน้ำท่วม ที่อาศัยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ทั้งลุ่มน้ำ การเก็บกักน้ำฝน และความร่วมมือของชุมชน ทำให้เข้าใจบทเรียนสำคัญด้านการบริหารจัดการน้ำ และเกิดแรงบันดาลใจในการนำแนวคิดเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับบริบทของประเทศไทยในอนาคต
🏭โรงงานจัดการขยะ Shizuoka City – ศูนย์การเรียนรู้ของเมืองชิซูโอกะเกี่ยวกับการจัดการขยะทั้งเมืองด้วยระบบที่ทันสมัยและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าศึกษาดูงานครั้งนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นได้จาก การแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบทั้งหมด การแยกขยะอย่างถูกต้องช่วยให้ขยะรีไซเคิลถูกนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ลดปริมาณขยะที่ต้องเผาหรือฝังกลบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบจัดการขยะที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับประเทศไทย
Tokyo Hydrogen Museam – พิพิธภัณฑ์ไฮโดรเจน เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดที่ออกแบบให้เยาวชนเข้าใจอนาคตของพลังงานสะอาดอย่าง “ไฮโดรเจน ตั้งแต่กระบวนการผลิต เก็บ และการขนส่งเพื่อใช้ไฮโดรเจน โมเดลเมืองต้นแบบที่ใช้ไฮโดรเจนในชีวิตจริง ไปจนถึงกิจกรรมทดลองปั่นจักรยานผลิตไฮโดรเจนและการจำลองเติมพลังงานให้รถยนต์ไฮโดรเจน ทำให้เห็นภาพของพลังงานสะอาดในอนาคต ทำความเข้าใจบทบาทของเทคโนโลยีไฮโดรเจนต่อการลดคาร์บอน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม โดยญี่ปุ่นตั้งเป้าให้มีการใช้รถยนต์ไฮโดรเจน 5,000 คันภายในปี 2030
การศึกษาดูงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ทั้งการอนุรักษ์ธรรมชาติ การบริหารจัดการน้ำ การจัดการขยะอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้เยาวชนไทยได้รับทั้งความรู้ แรงบันดาลใจ และตัวอย่างแนวปฏิบัติที่สามารถต่อยอดเพื่อนำกลับมาพัฒนาชุมชนและประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน
.
Scroll to Top