ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยี (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า โครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ภายใต้แผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เป็นตัวอย่างโครงการสำคัญที่ สวทช. ได้ดำเนินการตั้งแต่ ปี 2566 มุ่งนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมและชุมชนครอบคลุมกว่า 3,000 ครัวเรือนในพื้นที่จังหวัดลำปาง ขอนแก่น เชียงราย และอุดรธานี และพยายามพัฒนาเทคโนโลยีในพื้นอื่นๆ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะยกระดับการบริหารจัดการน้ำ จะจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคให้ประชาชนทุกพื้นที่ที่เข้าถึงได้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับศักยภาพของลุ่มน้ำและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเพิ่มขีดความสามารถของพื้นที่และชุมชนท้องถิ่นในการจัดการสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน และสอดคล้องกับแผนสำคัญของประเทศ ได้แก่ แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566 – 2568) ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งมิติปริมาณและคุณภาพน้ำ เช่น การจัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคให้เพียงพอได้มาตรฐานและระบบสุขาภิบาลที่ดีมีความเหมาะสม ส่งเสริมสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทุกระดับ นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม
ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และ สวทช. ได้ดำเนินการดำเนินการมา 3 ปี ซึ่ง 2 หน่วยงานให้ความสำคัญต่อประเด็นความร่วมมือทางด้านวิชาการ การจัดการความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน โดย สวทช. โดย นาโนเทค ได้ใช้ความสามารถทางด้านการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วย วทน. และการจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งปัจจุบัน มรภ.ลำปาง และ สวทช. ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในเชิงพื้นที่พัฒนาและดำเนินโครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วย วทน. (ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ตั้งแต่ปี 2566) โดยมี ผศ.ดร.ณรงค์ คชภักดี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาร่วมดำเนินงาน อีกทั้งได้มีลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการวิชาการ การจัดการความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน ในปี 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ได้ร่วมสนับสนุนโครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
“จากความร่วมมือนี้ เราคาดหวังให้เกิดการร่วมวิจัยและพัฒนาเพิ่มความเข้มแข็งทางวิชาการ การพัฒนากำลังคนและจัดการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่นำไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน เป็นการตอกย้ำความร่วมมือของหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ที่ สวทช. จะร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนจังหวัดการพัฒนาด้านการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ผ่านกรอบความร่วมมือดำเนินงานวิจัยและพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ร่วมกันจัดหาและสนับสนุนทรัพยากร ร่วมแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลทางวิชาการ และร่วมกันพัฒนาบุคลากร พัฒนาหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากความเข้มแข็งของ 2 หน่วยงาน ทั้ง สวทช. ในฐานะหน่วยงานที่สร้างองค์ความรู้ด้านการวิจัยขั้นสูงหรือเรียกว่าเป็น scientific partner และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร่วมทั้งมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเชิงพื้นที่ร่วมกันทำงานเป็น local partner นำองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาสู่การปฏิบัติใช้จริงในพื้นที่ เกิดการพัฒนา ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ภายในท้องถิ่นสร้างประโยชน์และความยั่งยืนในชุมชน” ดร. อุรชาย้ำ