นาโนนำส่ง “สารสกัดถั่งเช่า” เพิ่มศักยภาพการดูดซึม

นาโนนำส่ง “สารสกัดถั่งเช่า” เพิ่มศักยภาพการดูดซึม

นักวิจัยนาโนเทคพัฒนากระบวนการกักเก็บสารสกัดถั่งเช่า นำส่งเป้าหมาย เพิ่มการดูดซึมได้ 3-4 เท่าตัวในระดับห้องปฏิบัติการ หวังปูทางสู่อุตสาหกรรมอาหารเสริม ตอบเทรนด์โลกเรื่องสุขภาพ หวังผู้ประกอบการรับถ่ายทอดเทคฯ พร้อมเดินหน้าอัพสเกลสู่เชิงพาณิชย์

“ตัวนำส่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสำหรับสารสกัดถั่งเช่า” เป็นผลงานของ ดร.คทาวุธ นามดี นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการทีมวิจัยเวชศาสตร์นาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่พัฒนาขึ้นจากการมองเห็นโอกาสของสารสกัดถั่งเช่าที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ แต่ยังไม่มีนวัตกรรมที่เพิ่มคุณสมบัติให้สมุนไพรตัวนี้ทำงานได้ดีขึ้นเท่าใดนัก

ดร.คทาวุธ ชี้ว่า สารสกัดถั่งเช่ามีความท้าทายหลักในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรละลายน้ำยาก ดูดซึมได้น้อย ทำให้สารสกัดราคาแพงนี้ ต้องใช้ในปริมาณมากจึงจะได้ประสิทธิภาพที่สูง จึงพัฒนากระบวนการนำส่งสารสกัดถั่งเช่าให้ไม่ถูกย่อยที่กระเพาะอาหาร แต่ออกฤทธิ์ที่ลำไส้เล็ก ที่สามารถดูดซึมได้ดีที่สุด

กระบวนการวิจัย เริ่มจากการประดิษฐ์ตัวนำส่งสารคอร์ไดซิปินหรือสารสกัดถั่งเช่า โดยสังเคราะห์เป็นไมโครเอนแคปซูเลชันที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บสาร และมีความคงทนเมื่ออยู่ในสภาวะกรดหรือมีสภาวะเสมือนในกระเพาะอาหาร และสามารถปลดปล่อยไลโปโซมที่กักเก็บสารสกัดถั่งเช่าเมื่อค่า pH เพิ่มขึ้นหรือมีสภาวะเสมือนในลำไส้เล็ก ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพจากนำส่งสารออกฤทธิ์ไปยังเป้าหมาย

“โดยปกติแล้ว สารสกัดถั่งเช่าจะดูดซึมได้น้อยเพียง 5-10% เนื่องจากกระบวนการนำส่งในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในกระเพาะอาหาร แต่เมื่อใช้นาโนเทคโนโลยีมาช่วยใช้การกักเก็บสารออกฤทธิ์เอาไว้ และปลดปล่อยในจุดที่ดูดซึมได้ดีที่สุดอย่างลำไส้เล็ก ทำให้ศักยภาพการดูดซึมเพิ่มเป็น 30-40%” นักวิจัยนาโนเทคกล่าว

ไมโครเอนแคปซูเลชันของสารสกัดถั่งเช่า อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เป็นเม็ดเจลขาวขุ่น ขนาดไมโครเมตร ใช้เทคนิคกักเก็บสารระดับนาโนและไมโคร ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารสำคัญในลำไส้และกระเพาะอาหาร และมีการปลดปล่อยสารสำคัญเฉพาะที่ ที่สำคัญมีวิธีการเตรียมที่ทำได้ง่าย และพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีจากห้องปฏิบัติการไปสู่ระดับอุตสาหกรรม

“แนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารเสริม กำลังเพิ่มสูงขึ้น ล้อไปกับเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนทั่วโลก ทำให้อาหารเสริมจากสารสกัดถั่งเช่าที่ออกฤทธิ์ได้ดีกว่าเดิมด้วยนาโนเทคโนโลยี มีโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อยังมีคู่แข่งที่พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มถั่งเช่าด้วยนาโนเทคโนโลยีน้อย บวกกับจุดเด่นขององค์ความรู้ที่ทำให้นวัตกรรมของเราสามารถดูดซึมได้ดีกว่า ในปริมาณสารออกฤทธิ์ที่น้อยกว่า ทำให้ต้นทุนมีความเป็นไปได้ที่จะแข่งขันทางธุรกิจ” ดร.คทาวุธกล่าว

ปัจจุบัน นวัตกรรมอาหารเสริมจากถั่งเช่านี้ ประสบความสำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการ และอยู่ระหว่างการเสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิในสิทธิบัตรการประดิษฐ์ เพื่อต่อยอดในลักษณะของการร่วมวิจัย ขยายสเกล และผลักดันงานวิจัยไทยออกสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป